ไม่ว่าคุณจะยังใหม่ต่อการเทรดหรือเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ การใช้กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลกำไรให้สูงสุดนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ ในบทความนี้ เราจะพูดถึงกลยุทธ์การเทรดบางส่วนที่เทรดเดอร์ทั่วโลกใช้
กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์คืออะไร?
กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ หรือสไตล์การเทรด เป็นเทคนิคที่ผู้เทรดฟอเร็กซ์ใช้เพื่อกำหนดว่าจะซื้อหรือขายคู่เงินในช่วงเวลาใดก็ตาม กลยุทธ์อาจขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน หรือเหตุการณ์ตามข่าวสารอื่นๆ กลยุทธ์นี้มักจะประกอบด้วยสัญญาณเทรดที่ทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อหรือขาย กลยุทธ์การเทรดช่วยให้เทรดเดอร์มีความสม่ำเสมอแทนที่จะเทรดตามแรงกระตุ้นหรืออารมณ์ และยังช่วยวัดประสิทธิภาพและผลลัพธ์การเทรดอีกด้วย
สไตล์การเทรด
ในการสร้างกลยุทธ์การเทรด ก่อนอื่นคุณต้องระบุก่อนว่าคุณเป็นผู้เทรดฟอเร็กซ์ประเภทใด เทรดเดอร์ทุกคนมีสไตล์ อารมณ์ ความสามารถในการรับความเสี่ยง และบุคลิกภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง สไตล์การเทรดของผู้เทรดฟอเร็กซ์ได้รับอิทธิพลมาจากปัจจัยต่างๆ มากมาย รวมถึงระยะเวลาที่พวกเขามีเวลาในการเทรด วิธีการวิเคราะห์ที่พวกเขาชื่นชอบ (ทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน) หรือการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ประเภทต่างๆ
มีกลยุทธ์การเทรดที่หลากหลาย และตามที่ได้กล่าวไปแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของการเทรดจริง ลองมาดูกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์หลักๆ กัน
กลยุทธ์ Forex Scalping
กลยุทธ์ Forex Scalping ถูกใช้โดยเดย์เทรดเดอร์และเกี่ยวข้องกับการเปิดการเทรดระยะสั้นขนาดเล็กหลายรายการ แตกต่างกันไปตั้งแต่เพียงไม่กี่วินาทีไปจนถึงนาที ผู้เทรดแบบ Scalp ในฟอเร็กซ์มีเป้าหมายที่จะเทรดจำนวนมากและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาเล็กน้อยตลอดทั้งวัน เช่นเดียวกับสไตล์การเทรดทุกรูปแบบ การเทรดแบบ Forex Scalping ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เลเวอเรจ, สเปรด, ค่าธรรมเนียม และ Slippage ล้วนเป็นความเสี่ยงที่เทรดเดอร์จำเป็นต้องควบคุม จัดการ และคำนึงถึงให้มากที่สุด
กลยุทธ์เดย์เทรด
เดย์เทรดเดอร์มักจะมองหากำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาตราสารในระยะสั้น ซึ่งเมื่อรวมกันตลอดทั้งวันก็จะเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างมาก กฎที่จำเป็นและสำคัญที่สุดของการทำเดย์เทรดคือเทรดเดอร์จะปิดสถานะทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดวัน เดย์เทรดเดอร์มักจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน หากจำเป็น
กลยุทธ์การเทรดจากการสวิง
การเทรดจากการสวิงเป็นรูปแบบการเทรดที่มักจะถือครองสถานะเป็นเวลาสองสามชั่วโมง หลายวัน หรือนานกว่านั้น จุดมุ่งหมายคือการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่คาดการณ์ไว้ เพื่อซื้อถูกและขายแพง (หรือเช่นเดียวกันในทางกลับกัน) สวิงเทรดเดอร์ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลัก โดยอาจใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานร่วมด้วยเช่นกัน การเทรดจากการสวิงทำให้เทรดเดอร์ได้เปิดรับความเสี่ยงในช่วงข้ามคืนและสุดสัปดาห์ ซึ่งราคาอาจมีช่องว่างและเปิดเซสชันถัดไปในราคาที่แตกต่างไปเป็นอย่างมาก
กลยุทธ์การเทรดตามเทรนด์
การเทรดตามเทรนด์เป็นรูปแบบการเทรดที่อิงจากการวิเคราะห์ทิศทางของเทรนด์เพื่อระบุโอกาสในการเทรด โดยถูกออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากเทรนด์ขาขึ้นหรือเทรนด์ขาลง ราคาที่สูงขึ้นมักจะสะท้อนถึงเทรนด์ขาขึ้น ขณะที่ราคาที่ลดลงมักจะบ่งบอกถึงเทรนด์ขาลง นอกเหนือจากการดูจุดสูงสุดและต่ำสุดแล้ว เทรนด์เทรดเดอร์ยังใช้เครื่องมืออื่นๆ เช่น เส้นแนวโน้ม ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และข้อมูลชี้วัดทางเทคนิคเพื่อระบุทิศทางของเทรนด์
กลยุทธ์การเทรดตามสถานะ
การเทรดตามสถานะเป็นกลยุทธ์การเทรดระยะยาวยอดนิยมที่เปิดให้นักลงทุนถือสถานะเป็นระยะเวลานานโดยคาดหวังว่าการลงทุนจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ผู้เทรดตามสถานะจะกังวลกับการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นน้อยกว่า และเลือกที่จะพึ่งพาการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทรนด์ ระยะยาวที่มีความแม่นยำมากกว่า ผู้เทรดตามสถานะเป็นผู้ติดตามเทรนด์ พวกเขาเชื่อว่าเมื่อเทรนด์เริ่มต้นขึ้น ก็มีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง ผู้เทรดตามสถานะจะระบุเทรนด์และการลงทุนที่จะได้ประโยชน์จากเทรนด์นี้ จากนั้นจึงซื้อและถือการลงทุนไว้จนกว่าเทรนด์นั้นจะถึงจุดสูงสุด
กลยุทธ์การเทรดด้วยอัลกอริทึม
กลยุทธ์การเทรดด้วยอัลกอริทึมคือการที่การดำเนินการตามคำสั่งเกิดขึ้นอัตโนมัติผ่านคำสั่งเทรดที่ตั้งโปรแกรมไว้ คำสั่งเหล่านี้เป็นการเขียนโค้ดที่บอกรายละเอียดของคำสั่งว่าให้ซื้อและขายเมื่อใด และอาจรวมถึงการวิเคราะห์กราฟ การวิเคราะห์ความผันผวน การวิเคราะห์การหาราคา หรือเป็นเพียงเทรนด์ที่ติดตามการเคลื่อนไหวของราคา การเทรดด้วยอัลกอริทึมเป็นการพยายามขจัดอารมณ์ออกจากการเทรด ทำให้มั่นใจได้ว่าการเทรดจะดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและวางคำสั่งได้ทันที
กลยุทธ์การเทรดที่ขับเคลื่อนด้วยเหตุการณ์
กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยเหตุการณ์คือกลยุทธ์ประเภทหนึ่งที่พยายามทำกำไรจากการกำหนดราคาหุ้นผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างหรือหลังกิจกรรมขององค์กร นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยเหตุการณ์จะมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยวิเคราะห์การดำเนินการขององค์กรก่อนที่จะแนะนำการดำเนินการ ตัวอย่างของกิจกรรมองค์กร ได้แก่ การควบรวมและซื้อกิจการ การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ และการสรุปรายได้
การบริหารความเสี่ยง
องค์ประกอบที่สำคัญของกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์คือการบริหารความเสี่ยง การเทรดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงและการบริหารความเสี่ยงก็เป็นกุญแจสำคัญในการลดการขาดทุนจำนวนมาก แผนการจัดการความเสี่ยงเปิดให้คุณใช้ชุดของกฎและมาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์เชิงลบที่อาจส่งผลกระทบต่อการเทรดฟอเร็กซ์ กฎเหล่านี้รวมถึงคำสั่ง Stop-Loss ที่จะปิดสถานะการเทรดโดยอัตโนมัติ (เพื่อจำกัดการขาดทุน) เมื่อถึงระดับราคาที่กำหนด นอกจากนี้ยังมีคำสั่ง Take-Profit ที่จะปิดสถานะการเทรดของคุณเมื่อราคาถึงระดับกำไรที่กำหนด การบริหารความเสี่ยงยังพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเลเวอเรจด้วย เลเวอเรจมอบโอกาสให้เทรดเดอร์เพิ่มผลกำไรสูงสุด แต่ก็ทำให้พวกเขาขาดทุนอย่างมหาศาลได้เช่นกันหากไม่มีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
จัดการกลยุทธ์ของคุณด้วยการศึกษาด้านฟอเร็กซ์ที่เข้มข้น
กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ที่ประสบความสำเร็จยังรวมเอาความรู้และความเข้าใจของเทรดเดอร์เกี่ยวกับตลาดฟอเร็กซ์เข้าด้วยกัน ไม่ว่าประสบการณ์ด้านการเทรดของคุณจะอยู่ในระดับใด การเรียนรู้ฟอเร็กซ์ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งหมายความว่าคุณควรเพิ่มพูนความรู้ของคุณต่อไปโดยการอ่านแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฟอเร็กซ์ทั้งหมด เช่น e-books, บทความ และคำแนะนำ ชมวิดีโอให้ได้มากที่สุดหรือเข้าร่วมการสัมมนาผ่านเว็บในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับฟอเร็กซ์เพื่อเรียนรู้เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ อย่าลืมวิเคราะห์กราฟในอดีตและปัจจุบันให้บ่อยครั้ง และติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก ตลอดจนความผันผวนของตลาดที่ไม่คาดคิด รวมถึงศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานอย่างละเอียด
เปิดบัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ของคุณ
เปิดบัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนกลยุทธ์การเทรดของคุณกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เชื่อถือได้อย่าง IronFX คุณยังจะได้รับประสบการณ์การเทรดในสภาพแวดล้อมการเทรดจริงและนำการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐานมาใช้ โดยไม่ต้องเสี่ยงด้วยเงินจริง
ข้อปฏิเสธการรับผิด: ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุนหรือการเสนอแนะการลงทุน แต่เป็นการสื่อสารทางการตลาด