ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดการเงินระดับโลกสำหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและเป็นตลาดที่มีการเทรดกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลกด้วยปริมาณการเทรดต่อวันที่ 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ ผู้มีส่วนร่วมในตลาดฟอเร็กซ์ ได้แก่ ธนาคาร, บริษัทพาณิชย์, ธนาคารกลาง, บริษัทจัดการการลงทุน, กองทุนเฮดจ์ฟันด์, โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายย่อย และนักลงทุน
อ่านต่อเพื่อเรียนรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับตลาดฟอเร็กซ์และวิธีการเทรดฟอเร็กซ์
ช่วงเวลาทำการซื้อขายฟอเร็กซ์
ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งเปิด 5 วันต่อสัปดาห์ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตลาดฟอเร็กซ์ดำเนินการโดยเครือข่ายธนาคารทั่วโลกซึ่งกระจายอยู่ในศูนย์กลางการเทรดฟอเร็กซ์หลักสี่แห่งในเขตเวลาที่แตกต่างกัน: ลอนดอน, นิวยอร์ก, ซิดนีย์ และโตเกียว
การเทรดฟอเร็กซ์เริ่มต้นด้วยการเปิดของตลาดในออสเตรเลีย ตามด้วยเอเชีย แล้วเป็นยุโรป ต่อด้วยตลาดสหรัฐ จนกระทั่งตลาดปิดในช่วงสุดสัปดาห์
ในช่วงฤดูร้อน การเทรดจะเริ่มในวันอาทิตย์ เวลา 21:00 น. GMT และสิ้นสุดเวลา 21:00 น. GMT ในวันศุกร์ ในช่วงฤดูหนาว การเทรดจะเริ่มในวันอาทิตย์ เวลา 22.00 น. และสิ้นสุดเวลา 22.00 น. ในวันศุกร์ ซึ่งหมายความว่าสกุลเงินมีการเทรดกันตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ในตลาดฟอเร็กซ์มักจะมีผู้ซื้อและผู้ขายอยู่เสมอ ไม่เหมือนกับตลาดอื่นๆ
ฟอเร็กซ์มีการเทรดกันในรูปแบบคู่เงิน
การซื้อขายฟอเร็กซ์นั้นมักทำเป็นคู่สกุลเงิน เนื่องจากการเทรดฟอเร็กซ์จะเป็นการซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งในเวลาเดียวกัน มีสกุลเงินมากมายที่คุณสามารถเทรดได้ แต่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์มือใหม่มักจะเริ่มต้นด้วยสกุลเงินหลัก ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า majors โดยดอลลาร์สหรัฐ (USD) มีส่วนเกี่ยวข้องในการเทรดฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่
ยูโร (EUR) เป็นสกุลเงินที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง สกุลเงินหลักอื่นๆ ได้แก่ เยนญี่ปุ่น (JPY) ปอนด์อังกฤษ (GBP) ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ดอลลาร์แคนาดา (CAD) ฟรังก์สวิส (CHF) และดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดคือ สกุลเงินหลัก และเป็นตัวแทนของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดบางแห่งของโลก
คู่เงินหลักด้านล่างนี้คิดเป็นประมาณ 75% ของการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์:
- EUR/USD
- USD/JPY
- GBP/USD
- AUD/USD
- USD/CAD
- USD/CHF
- NZD/USD

การซื้อและการขายคู่เงิน
สกุลเงินจะถูกซื้อขายเป็นคู่ผ่านโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์หรือผู้ให้บริการ CFD สกุลเงินจะถูกเสนอราคาเทียบกับสกุลเงินอื่น เช่น ยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) การซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์เกี่ยวข้องกับการซื้อหรือขายเป็นคู่สกุลเงิน อัตราแลกเปลี่ยนหมายถึงอัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งกับอีกสกุลเงินหนึ่ง และจะผันผวนเมื่อมีสกุลเงินใดแข็งค่าขึ้นหรือลงในขณะนั้น
คู่สกุลเงินแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ คู่สกุลเงินหลัก คู่สกุลเงินรอง และคู่สกุลเงินพิเศษ คู่สกุลเงินหลักจะมีดอลลาร์สหรัฐอยู่ด้วยเสมอ และคู่สกุลเงินเหล่านี้มีสภาพคล่องสูงสุดในโลก สภาพคล่องอธิบายถึงระดับของกิจกรรมในตลาดการเงิน โดยขึ้นอยู่กับจำนวนเทรดเดอร์ที่ซื้อขายคู่สกุลเงินนั้นๆ และปริมาณการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น มีคนจำนวนมากที่ซื้อขายคู่สกุลเงิน EUR/USD และมีปริมาณการซื้อขายมากกว่าคู่สกุลเงิน AUD/USD ซึ่งบ่งชี้ว่า EUR/USD มีสภาพคล่องมากกว่า AUD/USD
คู่สกุลเงินรองจะไม่มีดอลลาร์สหรัฐฯ และคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับคู่สกุลเงินหลักใดๆ ก็ตามจะเรียกว่าคู่สกุลเงินรอง คู่สกุลเงินรองที่มีการซื้อขายมากที่สุดนั้นมาจากสกุลเงินหลักสามสกุลเงินที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แก่ EUR, JPY และ GBP
คู่สกุลเงินพิเศษประกอบด้วยสกุลเงินหลักหนึ่งสกุลเงินและสกุลเงินจากตลาดเกิดใหม่หนึ่งสกุลเงิน เนื่องจากคู่สกุลเงินเหล่านี้ไม่ได้มีการซื้อขายกันมากเท่ากับคู่สกุลเงินหลักหรือคู่สกุลเงินรอง ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายคู่สกุลเงินเหล่านี้จึงมักสูงกว่า

ตลาดระหว่างธนาคาร
การเทรดฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นใน ตลาดระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นเครือข่ายระดับโลกที่สถาบันการเงินทำการเทรดสกุลเงินและอนุพันธ์สกุลเงินอื่นๆ โดยตรงระหว่างกัน ตลาดฟอเร็กซ์ไม่มีสถานที่ตั้งหรือศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเหมือนกับตลาดการเงินอื่นๆ เช่น ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) หรือตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) อันที่จริงแล้ว ตลาดฟอเร็กซ์กระจายไปทั่วโลกโดยไม่มีศูนย์กลาง ดังนั้นการเทรดจึงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ตราบใดที่คุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
การเทรดฟอเร็กซ์นั้นเกี่ยวข้องกับการเก็งกำไร
การเทรดสกุลเงินส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ การเก็งกำไรซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์ซื้อและขายตาม การเคลื่อนไหวของราคาคู่เงินในระยะสั้น ในตลาดฟอเร็กซ์ เทรดเดอร์รายย่อยกำลังเก็งกำไรเมื่อพวกเขาพยายามทำกำไรเมื่อสกุลเงินหนึ่งแข็งค่าหรืออ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง
สิ่งใดบ้างที่มีอิทธิพลต่อตลาดฟอเร็กซ์?
ราคาของสกุลเงินถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานของผู้ขายกับผู้ซื้อ แต่ก็มีปัจจัยสำคัญอื่นๆ ในตลาดนี้เช่นกัน ความต้องการสกุลเงินที่เฉพาะเจาะจงอาจได้รับอิทธิพลมาจากอัตราดอกเบี้ย นโยบายของธนาคารกลาง อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมทางการเมืองของประเทศ
เนื่องจากตลาดฟอเร็กซ์เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ จึงทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสตอบสนองต่อข่าวที่อาจไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นจนกระทั่งเวลาผ่านไปอีกระยะหนึ่ง ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว การเทรดสกุลเงินมุ่งเน้นไปที่การเก็งกำไรหรือการป้องกันความเสี่ยง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เทรดเดอร์จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจทำให้ค่าเงินพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เทรดฟอเร็กซ์กับ IronFX
การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในการเปิดบัญชีเทรดนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากมีโบรกเกอร์มากมายให้บริการทางออนไลน์ หากคุณต้องการเทรดฟอเร็กซ์กับโบรกเกอร์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทำไมคุณไม่ลองเยี่ยมชม IronFX และลองใช้แพลตฟอร์มเทรดโดยการเปิดบัญชีทดลองดูล่ะ ทำตามขั้นตอนด้านล่าง:
- เปิดบัญชีทดลอง
- ทำการศึกษาเกี่ยวกับการเทรด
- ดูการศึกษาเกี่ยวกับฟอเร็กซ์และอ่านข่าวทางการเงินล่าสุด
- ลงทะเบียนและทดสอบฝีมือการเทรด
ข้อปฏิเสธการรับผิด: ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุนหรือการเสนอแนะการลงทุน แต่เป็นการสื่อสารทางการตลาด